ความดังมันมีสูตรถ้าคุณรู้หลักการของที่นั่น

Drawing by Sasi Meisanmui Tanadeerojkul

Painting by Nisharie Siripoonsap

สำหรับโพสต์นี้นะคะก็เขียนขึ้นมาเพื่อให้นักวาด nft สามารถจะทำ content ออกมาดึงความสนใจของผู้ดูไม่ว่าจะเป็น content โปรโมทจะเป็น content อื่นๆที่สร้างผู้ติดตามเรานะคะโดยจะเน้นแพลตฟอร์มใหม่นั่นก็คือ tiktok เป็นหลักเพราะคนยังไม่ค่อยใช้ที่นี่ในการโปรโมทnft

หรืออาจจะยังมีตัวเลือกน้อยคนที่เป็นnft artist ควรจะตั้งเป้าเป็น influencer ในสายของตัวเองให้ได้ก่อนค่ะรู้ไหมว่าตั้งแต่เราเขียนภาพมาแต่แรกในบอร์ด pocket /all final/exteen /deviantart และอื่นๆไปจนถึงทำ content TT จนมาถึง nft

เราบอกเลยว่าความดังมันมีสูตรถ้าคุณรู้หลักการของที่นั่นเหมือนเล่นสนามไหนคุณรู้หลักเกณฑ์ของสนามนั้นโอกาสที่คุณจะชนะจะสูง

แต่สิ่งที่สำคัญคือคุณต้องมีชื่อเสียงโดยที่ไม่เสียจิตวิญญาณของคุณตั้งต้นไปโดยคุณต้องถามตัวเองว่าสิ่งที่คุณต้องการในชีวิตมันคืออะไรและคุณอยากได้ชื่อเสียงไปเพื่ออะไร?

เรื่องแรกคนที่อยากมาติ๊กต๊อกนะคะถามว่าทำยังไงให้ได้แสนฟอลโลFollow เท่านี้เป็นจำนวนไม่ได้เยอะค่ะพูดจริงๆเป็น influencer ต้องตั้งเป้าไว้ที่5แสนถึง 1 ล้านฟอลอย่างต่ำสำหรับนักวาดอย่างเราไม่ต้องตั้งเป้าสูงขนาดนั้น

บางคนอาจจะบอกว่าต้องทำยูทูปให้สำเร็จต้องทำ facebook ให้สำเร็จก่อนแล้วค่อยมาที่นี่เราบอกเลยว่าหลักการในการเป็น kol คือเราจะอยู่ที่ไหนก็ได้ถ้าเรากลายเป็นtop ใน niche นั้นจะ platform ไหน เราก็มีงาน/ขายงานได้เหมือนกัน

1.กลยุทธ์แรกนั่นก็คือการอัพคลิปคือคุณจะต้องอัพคลิป3 คลิปอย่างต่ำทุกวันเป็นเวลา 6 เดือนถึง 1 ปี

หรือจริงๆควรจะมากกว่านั้นในช่วงที่เราทำช่วงแรกๆเราอัพ 10-20 คลิปต่อวันโดยคลิปที่ไม่ปังเราจะเซฟเป็น private

2.วินัยจึงสำคัญมากๆในการที่จะทำให้ถึงเลขแตะแสนแล้วเราต้องมีการวิเคราะห์อยู่เสมอว่าคนชอบ content แบบไหนเราอัพอะไรแล้วมีคนติดตามมีคนไลค์เยอะ

3.ความสม่ำเสมอสำคัญที่สุดยิ่งกว่าอะไรในการที่จะไปสาย content และการสร้าง content เราไม่มีทางรู้เลยว่าคนจะชอบ content ไหนจนกว่าเราจะปล่อยออกไปบาง content เราใช้เวลาในการทำงานนานแต่คนไม่ได้ชอบมากก็มีกลับกัน content ที่ใช้เวลาในการทำน้อยกลับได้รับความนิยมมากกว่าหลักการสำคัญคือคุณจะต้องโฟกัสในสิ่งที่คุณทำจนกว่ามันจะประสบความสำเร็จทีละอย่างแล้วทำไปให้สุดทีละอย่างไม่ว่าเป้าหมายของคุณจะเป็นอะไรขอให้โชคดีนะคะ:)

จริงๆถ้าคุณไม่ได้วาดรูปเก่งขนาดเทพคุณสามารถที่จะเป็นเอนเตอร์เทนเนอร์ที่ดีได้นะคะไม่ว่าคุณจะถ่ายทำวีดีโอแบบไหนที่ทำให้คนรู้สึกอยากติดตามคนรู้สึกอยากกดไลค์ content บางอย่างเป็นภาพนิ่งแล้วไม่ปังแต่เป็นวีดีโอแล้วปังก็มีค่ะ

เรื่องที่ 2จริงๆระหว่างที่เรากำลังเดินทางอยู่ก็มีการสูญเสียมีความเจ็บปวดเกิดขึ้นมากมายไม่ว่าจะเป็นการที่เพื่อนที่มีอุดมคติในการทํางานต่างกันแล้วมีความคิดเห็นต่อการทำงานแตกต่างกันและมุมมองต่อโลกแตกต่างกันแล้วเพื่อนหรือคนรู้จักคนนั้นก็อาจจะหายไปจากชีวิตของเรา

ถามว่าเราแคร์หรือไม่บอกได้เลยว่าก็แคร์นะแต่เราไม่สามารถทําให้ทุกคนบนโลกเห็นด้วยกับวิถีทางและวิธีการของเราได้ยกตัวอย่างเช่นตอนที่เราไปติ๊กต๊อกหรือทำ nft ก็มีเพื่อนไม่เห็นด้วยหลายคนเหมือนกัน

แต่สิ่งที่คุณเลือกทำลงไปบางทีคุณแค่ใช้ guts feeling หรือความรู้สึกข้างในลึกๆที่จะเลือกว่าจะทำหรือไม่ทำสิ่งไหนก็ตามในชีวิตของคุณ

ไม่ว่าจะมีคนไม่เห็นด้วยสักกี่คนก็ตามแต่ถ้าคุณมุ่งมั่นที่จะไปเส้นทางนั้นแล้วมันไม่ได้ผิดกฎหมายไม่ได้ผิดศีลธรรมก็ขอให้คุณโชคดีและประสบความสำเร็จในเส้นทางที่คุณเลือกทุกคนค่ะถ้าคุณเลือกที่จะฟังคนทุกคนบนโลกนี้คุณจะไม่ได้เป็นตัวของตัวเองและจะไม่มีทางได้ยินเสียงที่อยู่ข้างในตัวเองลึกๆที่มันคอยบอกคุณว่าจริงๆแล้วฉันอยากทำสิ่งนี้อยากทำสิ่งนั้น

แล้วชีวิตของคนมันไม่ควรจะไปขึ้นกับความคิดเห็นของคนอื่นมันควรจะเป็นคุณที่ตัดสินชะตาชีวิตของตัวเอง

เรื่องที่3 เรื่องราวต่างๆบนโลกใบนี้มันคล้ายกับราโชมอนเราไปฟังอีกคนหนึ่งพูดก็จะได้มุมมองที่เป็นของอีกคนหนึ่งนะคะ

สำหรับคนที่อยากรู้นะคะว่าอารมณ์อะไรที่สร้างให้เกิด content ที่ทรงพลังไม่ว่าจะเป็น content ในการเขียนหรือคอนเทนต์ที่เป็นวีดีโอเราไม่รู้ว่าของคนอื่นคืออะไรนะแต่สำหรับเราอารมณ์ที่สร้างให้เกิด content ที่ทรงพลังที่สุดกลับเป็นอารมณ์กลัวและอารมณ์โกรธ

รองลงมาก็เป็นอารมณ์เศร้านะคะถามว่าทำไมอารมณ์ negative ถึงมีพลังมากกว่าในการที่จะสร้าง content สำหรับเราเวลาที่เราเขียนหรือเวลาที่เราสร้างบทความ content ที่เกิดขึ้นจากพลังลบจะมีพลังบางอย่างที่ดึงความ common หรือความเหมือนกันของผู้อ่านออกมาแล้วทำให้สิ่งนั้นเกิดพลังในการดึงเอาความรู้สึกของผู้เสพออกมาค่ะอารมณ์ที่ทำให้เกิดภาพที่สวยงามที่สุดคืออารมณ์รักค่ะอารมณ์รักจะเป็นอารมณ์ที่เรามีความรู้สึก+ ตรงกันข้ามเลยถ้าสมมุติเป็นการสร้างรูปหรือว่าการวาดรูปอารมณ์กลัวกับอารมณ์โกรธจะทำให้ภาพออกมาเละมากหรือไม่ก็ออกมาเป็นภาพที่ดูไม่ค่อยสวยงามนัก แต่ถึงกระนั้นเราก็ควรวาดรูปในเวลาที่เรารู้สึกโกรธบ้างเพราะว่ามันจะทำให้เราเข้าถึงอารมณ์นั้นๆเวลาที่เราได้เขียนภาพออกมา ส่วนรองลงมาคืออารมณ์เศร้าแบบสุดๆแต่ย้ำว่าถ้าเศร้าแบบสุดๆเนี่ยเวลาต้องผ่านมาแล้วสักพักเราถึงจะวาดรูปได้อย่างถึงอารมณ์นะแล้วภาพมันจะออกมาเป็นอารมณ์ที่สามารถดึงความรู้สึกของคนดูออกมาได้ด้วย


Posted

in

by

Tags:

Create a website or blog at WordPress.com