เมื่อก่อนเราเคยรู้สึกเสียใจที่เรียนสายวิทยาศาสตร์

เมื่อก่อนเราเคยรู้สึกเสียใจที่เรียนสายวิทยาศาสตร์ไม่ได้ไปทางสายศิลปะแต่ต้น ก็เลือกตามเพื่อนบ้างอะไรบ้างตามพ่อแม่ตามกระแสสังคมบ้างเพราะตอนนั้นเรียนสายวิทย์มีทางเลือกเยอะกว่าแล้วคือตอนนั้นไม่ได้กะสอบสถาปัตย์ที่จะสอบสถาปัตย์คือตัดสินใจตอนม. ปลายแล้วตอนม. ต้นกะเข้าหมอหรืออะไร something น่ะที่ไม่ได้เลือกเพราะดันกลัวเลือดมากๆในระดับหนึ่งก็เลยไม่ได้สมัครหมอและคิดว่าคงจะทำไม่ได้เลยไม่เอาดีกว่า

แล้วก็มีอยู่ช่วงนึงที่เรารู้สึกเสียใจที่เรียนสายวิทย์เพราะว่าโอกาสในการพัฒนาศิลปะของเราน้อยกว่าคนที่เรียนสายศิลปะมากและมีหลายๆเรื่องที่เรารู้สึกว่าต่อให้เราเรียนตอนช่วงนี้มันก็สู้ช่วงที่เราเรียนช่วงก่อนหน้านี้ไม่ได้

แต่บอกเลยว่าสายวิทยาศาสตร์ได้สอนอะไรเราเยอะแยะมากมายมีวิชาวิชาหลัก 3 วิชาคือฟิสิกส์เคมีชีวะสำหรับฟิสิกส์เราได้กลับมาแค่ข้อเดียวที่เราใช้ไปทั้งชีวิตนั่นก็คือ action เท่ากับreactionในฟิสิกส์มันคือแรงกิริยาเท่ากับแรงปฏิกิริยาหมายความว่าเราใส่แรงเข้าไปเท่าไหร่เราจะได้ผลลัพธ์กลับมาเท่านั้นเหมือนกฎแห่งกรรมเป๊ะเลย

ส่วนเคมีเราก็ได้แค่ข้อเดียวเหมือนกันนั่นก็คือเคมีจะเป็นเรื่องของการทดลองถ้าเราเอาโซเดียมคลอไรด์เจือจางในน้ำน้ำจะกลายเป็นน้ำเกลือเราไม่สามารถทำให้น้ำเกลือกลับเป็นน้ำใสสะอาดได้ 100% ก็จริง

อาจจะมีกระบวนการบางกระบวนการที่สามารถทำให้น้ำกลับมาใสได้แต่ก็ซับซ้อนแต่สิ่งที่เราสามารถทำได้คือทำให้น้ำเกลือเจือจางลงเปรียบเสมือนความชั่วที่ไม่สามารถหักล้างกันเหมือนบวกลบเลขได้แต่ถ้าเราใส่ความดีเข้าไปเยอะๆ

มันจะเหมือนโซเดียมคลอไรด์ที่ถูกเจือจางส่วนชีววิทยาเราได้กลับมาข้อ หนึ่งนั่นก็คือสัตว์โลกทั้งหลายย่อมเป็นไปตามกรรม

ถ้าคิดในมุมมองของห่วงโซ่อาหาร

เสือเกิดมาเพื่อล่าเหยื่อถ้ามันไม่ล่าเหยื่อมันก็ตายกวางเกิดมาเพื่อเป็นเหยื่อถ้ามันไม่หนีมันก็ตายเป็นต้น

ส่วนการเรียนสถาปัตยกรรมศาสตร์สอนเราข้อนึง นั่นก็คือ ฟอร์ม follow function หมายความว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นฟังก์ชันมาก่อนรูปร่างของมันมาทีหลังสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่อง 4 มิติที่มีเรื่องของเวลาเข้ามาเกี่ยวมีการใช้งานของคนเข้ามาเกี่ยว


Posted

in

by

Tags:

Comments

ใส่ความเห็น

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.

Create a website or blog at WordPress.com