กำลังเดินมาขึ้นรถไฟฟ้าแล้วคิดไอเดียนึงออกวันนี้ค่อนข้างเป็นเรื่องชีวิตนั่นก็คือหลายๆคนอาจจะสงสัยว่าเรามาอยู่จุดนี้ได้อย่างไร?
ถ้าวันนี้คุณยังทำงาน’หนักมากๆ’แล้วได้เงินน้อยอยู่หรือขายงานอะไรก็ตามได้’ราคาถูกมาก’ คุณต้องถามตัวเองแล้วว่าคุณ’ทำงานแลกเงิน’อยู่หรือเปล่า?
น่าจะถามพี่กลับว่าถ้าไม่ทำงานแลกเงินแล้วจะทำอะไรล่ะ?
พี่เคยอยู่จุดเดียวกับน้องมาก่อนพี่เข้าใจว่าน้องคิดอะไร?คนอยากได้เงินไม่ใช่เรื่องผิด…
สำหรับพี่ไม่ได้ ‘ทำงานแลกเงิน’
พี่ทำงานแลก’สินทรัพย์’และใช้สินทรัพย์สร้างเงิน หรือ Cash cow
เนื่องจากพี่ไม่อยากทำงานหนักหน่วงไปจนตาย
สิ่งที่พี่ทำหลักๆมี 2 อย่าง…
1.’สร้าง Asset’ ด้านทรัพย์สินทางปัญญาและลิขสิทธิ์ผลงาน สร้างครั้งเดียวได้ตลอดชีวิต สังเกตได้เลยว่าพี่ไม่ค่อยขายลิขสิทธิ์ขาดผลงานให้ใคร
2.ทำงานฟรีหรือได้เงินน้อยแลกงานที่’ใหญ่กว่า’profile ดีกว่าเดิม ได้เงินเยอะขึ้น โปรเจคใหญ่ขึ้น
ถ้าน้องสังเกตแพทเทิร์นในการรับงานของพี่พี่ไม่รับ’งานจ้าง’ที่บอกว่าให้พี่ทำอะไรแต่พี่จะรับงานที่ให้’อิสระพี่ในการคิด’ การแสดงตัวตนที่ชัดเจนของตัวเอง งานที่ให้โอกาสในการเติบโต จะไม่รับงานเดิมๆซ้ำๆที่ได้ลูกค้าเดิมๆเนื่องจาก portfolio มันจะไม่แข็งและกลายเป็นว่าเราทำงานให้ลูกค้าเดิมๆมานานเกินไปกลายเป็น pigeon hole ยกเว้นลูกค้านั้นคือระดับ top สายนะ
หลักการคือคุณต้อง’ชัดเจนในตัวเอง’ว่างานนั้นคุณจะชาร์จหรือไม่ชาร์จชาร์จเท่าไหร่ต่อยอดยังไง?
ถามว่าทำไมราคางานพี่ตอนนี้ถึงสูงปรี๊ดขนาดนี้ถ้าเทียบกับนักวาดการ์ตูนท่านอื่นๆอันนี้คือไม่ได้แบ่งแยกหรือไม่ได้ดูถูก
แต่บอกเลยว่าคนไม่ได้ซื้อ’งานพี่’อย่างเดียว คนซื้อ’ขนาดใจของพี่’ และ พี่ก็’ซื้อใจเขา’ มาก่อน
มันค่อนข้างเป็นเกมวัดดวง ใจแลกใจ พอสมควรสำหรับพี่
คุณจะซื้อใจคนได้อย่างไร?
คุณก็ต้องซื้อ’ใจของคน’ด้วย’ใจของคุณ’คุณก็ต้องให้เขาก่อนเป็นฝ่ายที่ให้โดยไม่หวังผลตอบแทนไม่มีอาเจนด้าอื่น
หมายความว่าจริงๆคือคุณค่าของงานมันไม่ได้อยู่ที่’ตัวผลงาน’อย่างเดียวแต่มันคือ’คุณค่าของตัวคุณ’คนไม่ได้ซื้องานของคุณแต่คนซื้อตัวของคุณด้วย
เพราะฉะนั้นเวลาจะทำอะไรคิดถึงเรื่องระยะยาวนะคะไม่ใช่ระยะสั้น
ใส่ความเห็น